ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีต่าง ๆ ได้พัฒนามากขึ้นทำให้มีการคิดค้นอาหารในรูปแบบต่าง ๆ ออกมาอย่างมากมายแต่ใครจะไปเชื่อว่าในช่วงก่อนหน้านี้บทโลกออนไลน์ได้มีแปลก ๆ ขึ้นมา เมื่อมีนักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาวิธีการสกัดนมที่มีสารอาหารและโปรตีนที่มากกว่านมวัวที่เรานิยมดื่มกันอยู่เสียอีก ซึ่งนมที่ว่านั้นกลับถูกสกัดออกมาจากแมลงชนิดหนึ่งที่ทุกคนรู้จักกันดีคือ “แมลงสาบ” นั่งเอง ได้ยินแบบนี้ทุกคนคงสงสัยแล้วแน่ ๆ ว่าอนาคตเราจะต้องดื่มนมจากแมลงสาบจริง ๆ หรือไม่ วันนี้เราเลยหาข้อมูลที่จะช่วยทุกคนไขข้อข้องใจเกี่ยวกับ “นมแมลงสาบ” อาหารแปลกจากแมลงที่ทุกคนรู้จักดี
“แมลงสาบ” ที่มาของอาหารสุดแปลก
สำหรับตัวนมที่สกัดจากแมลงสาบนั้นไม่ใช่ว่าสามารถนำแมลงสาบที่เราพบเห็นมาสกัดในทันที แต่ชนิดที่ถูกนำมาสกัดเป็นนมนั้นมีชื่อว่า “แมลงสาบด้วงแปซิฟิก” หรือ Pacific Beetle cockroach (ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Diploptera punctata) และจากภาพก็จะเห็นได้ว่าเจ้าแมลงสาบชนิดนี้มีความแตกต่างกันอย่างมากกับแมลงสาบที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป แต่ถ้าตามข้อมูลแล้วก็นับว่าแมลงสาบสองชนิดนี้เป็นญาติที่ห่างกันอย่างมาก เพราะแม้หน้าตาที่คล้ายคลึงคลัน แต่การแบ่งชนิดก็ทำให้มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ที่แตกต่างกันก็คงไม่ต้องกังวลว่าแมลงสาบชนิดนี้จะเป็นตัวที่ทำให้บ้านของเราดูไม่สะอาด และคอยกวนใจเราอย่างแน่นอน แต่ว่าทำไมนักวิทยาศาสตร์คนนั้นถึงได้คิดริเริ่มการสกัดนมจากแมลงสาบไปหาคำตอบกัน
“นมแมลงสาบ” อาหารที่เกิดจากการความแปลก
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดการศึกษาการสกัดนมแมลงสาบนั้น เพราะแมลงสาบชนิดนี้จะมีการออกลูกเป็น “ตัว” ซึ่งจะแตกต่างจากแมลงสาบทั่วไปที่มักจะออกลูกเป็นไข่ และเพื่อการเจริญเติบโตของลูกแมลงสาบภายในตัวแม่แมลงสาบ ทำให้แม่แมลงจะผลิต “ผลึกโปรตีน” เพื่อเป็นแหล่งของอาหารก่อนที่จะคลอดออกมาสู่โลกภายนอกนั่นเอง ด้วยเหตุนี้นักวิทยาศาสตร์จึงเกิดความสนใจกับ “ผลึกโปรตีน” ตัวนี้จึงได้ศึกษาผลึกโปรตีนที่ว่าพบว่า การทำนมแมลงสาบประมาณ 100 มิลลิลิตร ต้องใช้แมลงสาบในการสกัดถึง 1,000 ตัวโดยจากการศึกษาสารอาหารภายในนมแมลงสาบจะมีพลังงานและสารอาหารต่อ 100 มิลลิลิตร ดังนี้
- พลังงาน 232 กิโลแคลอรี
- โปรตีน 26 กรัม (ร้อยละ 45)
- คาร์โบไฮเดรต 14 กรัม (ร้อยละ 25)
- ไขมัน 4 – 6 กรัม (ร้อยละ 16 – 22)
หรือถ้าหากนำนมแมลงสาบมาเทียบกับนมวัวในปริมาณที่เท่า ๆ กันจะเห็นว่านมแมลงสาบมีโปรตีนสูงกว่านมวัวถึง 4 – 5 เท่า อีกทั้งให้พลังงานมากกว่า และยังมีสารอาหารอื่น ๆ ที่ครบถ้วนอีกด้วย ซึ่งจากการศึกษาเหล่านี้ก็ทำให้เห็นถึงประโยชน์จากแมลงสาบตัวน้อย ๆ เหล่านี้ อย่างในสถานที่ที่มีพื้นที่ในการทำปศุสัตว์อย่างจำกัดก็จะมีรูปแบบการผลิตอาหารเพิ่มขึ้นอีก 1 แบบนั่นเอง
ได้ยินแบบนี้หลาย ๆ คนคงคิดว่าจะได้เห็นหรือบริโภคนมจากแมลงสาบในเร็วๆ นี้ แต่ว่าความจริงนั้นยังต้องใช้เวลาในการศึกษาต่อ เพราะนี่คือขั้นตอนแรกของการค้นพบเท่านั้น เนื่องจากกระแสการบริโภคแมลงเป็นแหล่งอาหารเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น และการศึกษานี้ก็ยังเกิดจากความสงสัยเพียงเท่านั้น ดังนั้นขั้นตอนในการพัฒนาเพื่อให้ได้มาซึ่ง “นมแมลงสาบ” อาหารแปลกจากแมลงที่ทุกคนรู้จักดี มาเป็นแหล่งอาหารอีกหนึ่งแหล่งยังคงต้องใช้เวลาในการวิจัยเพื่อดูเป้าหมายและความเป็นไปได้ในการผลิตเพื่อวงกว้างต่อไป เพื่อให้สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัยและคุ้มค่ากับการนำมาบริโภคมากที่สุด
สอบถามเพิ่มเติม Add Line ปรึกษานักกำหนดอาหาร
ดูแลสุขภาพของคุณให้ถูกวิธี
โปรแกรมปรึกษานักกำหนดอาหารคืออะไร ?
พร้อมรับคำปรึกษาจาก
นักกำหนดอาหารวิชาชีพ
ไม่พลาดบทความด้านโภชนาการ
ของ อีทเวลล์คอนเซปต์ ก่อนใคร
อ้างอิง
- M.J. Ingram, B. Stay, G.D. Cain, Composition of milk from the viviparous cockroach, Diploptera punctata, Insect Biochemistry, Volume 7, Issue 3, 1977, Pages 257-267, ISSN 0020-1790, https://doi.org/10.1016/0020-1790(77)90023-3.
- Williford, A., Stay, B., & Bhattacharya, D. (2004). Evolution of a novel function: nutritive milk in the viviparous cockroach, Diploptera punctata. Evolution & development, 6(2), 67–77. https://doi.org/10.1111/j.1525-142x.2004.04012.x
- Banerjee, S., Coussens, N. P., Gallat, F. X., Sathyanarayanan, N., Srikanth, J., Yagi, K. J., Gray, J. S., Tobe, S. S., Stay, B., Chavas, L. M., & Ramaswamy, S. (2016). Structure of a heterogeneous, glycosylated, lipid-bound, in vivo-grown protein crystal at atomic resolution from the viviparous cockroach Diploptera punctata. IUCrJ, 3(Pt 4), 282–293. https://doi.org/10.1107/S2052252516008903
- Niaz, K., Zaplatic, E., & Spoor, J. (2018). Highlight report: Diploptera functata (cockroach) milk as next superfood. EXCLI journal, 17, 721–723. https://doi.org/10.17179/excli2018-1437