สำหรับคนเป็นโรคไตเรื้อรังมีความจำเป็นที่จะต้องควบคุมการกินอาหาร จนอาจทำให้เกิดความสงสัยว่าตกลงแล้วกินอะไรได้บ้าง แต่จะมีอาหารชนิดหนึ่งที่คุณหมอมักจะแนะนำให้คนป่วยโรคไตได้กินเมื่อต้องเข้ารับการบำบัดทดแทนไตนั่นก็คือ “ไข่ขาว” แล้วเพราะอะไร ผู้ป่วยโรคไต ทำไมต้องกิน ไข่ขาว เวลาที่จะต้องบำบัดทนแทนไตกันด้วยเราลองไปหาคำตอบกันดีกว่า
ผู้ป่วยโรคไต “เรื้อรัง” คืออะไร
โรคไตเรื้อรัง (Chronic kidney disease, CKD) คือ ภาวะที่ไตของเราได้ถูกทำลาย จากการที่ไตทำงานอย่างหนักในการกรองของเสียหรือแร่ธาตุส่วนเกินต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลจากการเลือกรับประทานอาหารที่มีรสเค็มจัดหรือมีโซเดียมสูง หรือผลจากโรคความดันโลหิต โรคเบาหวานที่ควบคุมได้ไม่ดี จนทำใหไตไม่สามารถกรองเลือดเพื่อขับของเสียได้อย่างเป็นปกติ และโรคไตถือเป็นโรคที่ “เรื้อรัง” เนื่องจากการเสื่อมของไตจะเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ ใช้ระยะเวลานาน โดยการเสื่อมของไตอาจทำให้เกิดการสะสมของเสียในร่างกาย และเมื่อไตของเราไม่สามารถทำการกรองได้เป็นปกติเป็นเวลา 3 เดือน ก็จะนับว่าเป็น “โรคไตวายเรื้อรัง” ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้ยากในคนทั่วไปหากสามารถควบคุมการกินอาหารได้ดี โดยไม่กินอาหารรสจัดมากเกินไป หรือคุมโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวันนั่นเอง และหากมีค่าการทำงานของไต (glomerular filtration rate : eGFR) น้อยกว่า 15 มิลลิลิตร/นาที/1.73 ตารางเมตรก็จะนับว่าเป็น “โรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย” นั่นเอง ซึ่งในแต่ระยะก็จะมีความต้องการโปรตีนที่ต่างกัน โดยปริมาณทั้งหมดทึ่ควรได้รับจะแตกต่างไปตามแต่น้ำหนักตัวของแต่ละคน จึงกำหนดปริมาณที่ควรได้รับเทียบกับน้ำหนักตัวของเรา 1 กิโลกรัม ดังนี้
- โรคไตเรื้อรังที่ยังไม่จำเป็นต้องได้รับรับการฟอกไต 0.6 – 0.8 กรัมโปรตีน/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
เช่น เรามีน้ำหนักตัว 70 กิโลกรัม ก็ควรได้โปรตีนวันละ 42 – 56 กรัม - โรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ได้รับการฟอกไต 1.1 – 1.4 กรัมโปรตีน/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
เช่น เรามีน้ำหนักตัว 70 กิโลกรัม ก็ควรได้รับโปรตีนวันละ 77 – 98 กรัม
จะเห็นได้ว่าผู้ป่วยไตวายเรื้อรังจะมีความต้องการโปรตีนที่ต่ำกว่าเพราะเป็นการจำกัดการทำงานของไตและชะลอการเกิดภาวะไตวายนั่นเอง แต่เมื่อเกิดภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายแล้วผู้ป่วยมีความจำเป็นที่ทำการฟอกไต ซึ่งทำให้มีความต้องการโปรตีนมากขึ้นเพื่อรักษาสมดุลของไนโตรเจนให้เป็น บวก อยู่เสมอเพื่อป้องกันการสลายของกล้ามเนื้อ โดยโปรตีนที่ผู้ป่วยควรได้รับจะต้องเป็น “โปรตีนคุณภาพสูง” หรือ high biological value (HBV) โดยมักจะพบในเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ไข่ไก่ นมและผลิตภัณฑ์จากนม แต่ว่าทำไมถึงแนะนำให้ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังกินไข่ขาวในการเพิ่มโปรตีนกันนะ
ทำไม คนโรคไต ต้องเลือก ไข่ขาว ?
จากการที่ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายมีความต้องการโปรตีนที่เพิ่มสูงมากขึ้น แต่ในด้านสารอาหารอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นโซเดียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส หรือแม้แต่ไขมัน ยังต้องทำการควบคุมให้อยู่ในปริมาณปกติ ซึ่งถ้าหากเลือกกินเนื้อสัตว์ต่าง ๆ เช่น หมู ไก่ ปลา กุ้ง เป็นต้น หรือแม้แต่การดื่มนม ในปริมาณที่มากขึ้น อาจส่งผลให้ได้รับสารอาหารต่าง ๆ เหล่านี้ในปริมาณที่มากเกินไปนั่นเอง โดยไข่ขาว 1 ฟองจะมีสารอาหารต่าง ๆ อยู่ในปริมาณ ดังนี้
- โปรตีน 3 กรัม และเป็นโปรตีนคุณภาพสูง
- โพแทสเซียม 49.5 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัสที่ต่ำเพียง 11 มิลลิกรัม
- ไขมันต่ำเพียง 0.056 กรัม
อีกทั้งไข่ขาวยังมีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน และยังสามารถหาซื้อได้ง่าย เพราะในปัจจุบันก็ได้มีการทำไข่ขาวพาสเจอร์ไรซ์อีกทั้งราคายังไม่แพงมาก จึงกลายเป็นตัวเลือกในการเพิ่มปริมาณโปรตีนที่ได้รับต่อ แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสารอาหารตัวอื่น ๆ มากเกินไปนั่นเอง
ด้วยเหตุผลที่ว่าไข่ขาวเป็นโปรตีนที่ดีมีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน มีไขมันต่ำ และยังมีปริมาณสารอาหารต่าง ๆ ที่ผู้ป่วยโรคไตจำเป็นต้องควบคุมในปริมาณที่ต่ำ เช่น ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เป็นต้น จึงไม่แปลกที่จะเป็นทางเลือกในการเพิ่มโปรตีนสำหรับผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังที่ได้รับการบำบัดทดแทนไต นี่ก็คือเหตุผลที่ว่า ผู้ป่วยโรคไต ทำไมต้องกิน ไข่ขาว นั่นเอง แต่ถ้าสงสัยว่าแล้วผู้ป่วยโรคไตจะต้องกินไข่เพิ่มวันละเท่าไหร่นั้น จำเป็นที่จะต้องคำนวณความต้องโปรตีนของแต่ละบุคคล รวมถึงโปรตีนที่ได้รับจากอาหารที่กินเป็นปกติในแต่ละวัน ดังนั้นถ้าผู้ป่วยโรคไตคนไหนสงสัยและอยากรู้ว่าต้องกินโปรตีนจากไข่ขาวเพิ่มกี่ฟอง แล้วจะต้องกินไข่ขาวให้อร่อยและครบจำนวนควรทำอย่างไร ก็สามารถขอคำแนะนำจากแพทย์หรือนักกำหนดอาหารที่โรงพยาบาลที่รักษาตัว หรือสามารถให้นักกำหนดอาหารจาก อีทเวลล์คอนเซปต์ ดูแลได้เช่นกันครับ โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
สอบถามเพิ่มเติม Add Line ปรึกษานักกำหนดอาหาร
ดูแลสุขภาพของคุณให้ถูกวิธี
โปรแกรมปรึกษานักกำหนดอาหารคืออะไร ?
พร้อมรับคำปรึกษาจาก
นักกำหนดอาหารวิชาชีพ
ไม่พลาดบทความด้านโภชนาการ
ของ อีทเวลล์คอนเซปต์ ก่อนใคร
อ้างอิง
- Tallman, D. A., Sahathevan, S., Karupaiah, T., & Khosla, P. (2018). Egg Intake in Chronic Kidney Disease. Nutrients, 10(12), 1945. https://doi.org/10.3390/nu10121945
- สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย , คำแนะนำสำหรับการดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังก่อนการบำบัดทดแทนไต พ.ศ. 2558 ,เข้าถึงจาก http://doh.hpc.go.th/data/HL/CKD_2015.pdf
- ศิรินทร์ จิวากานนท์ และคณะ , คำแนะนำแนวทางเวชปฏิบัติโภชนบำบัดสำหรับผู้ป่วยโรคไตในผู้ใหญ่ พ.ศ. 2561, เข้าถึงจาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ThaiJPEN/article/view/248367/168872
- Hoffman, J. R., & Falvo, M. J. (2004). Protein – Which is Best?. Journal of sports science & medicine, 3(3), 118–130.
- Nutrient Data Laboratory (U.S.), & Consumer and Food Economics Institute (U.S.). (1999). USDA nutrient database for standard reference. Riverdale, Md: USDA, Nutrient Data Laboratory, Agricultural Research Service.