fbpx

น้ำตาลในเลือด เท่าไหร่ถึงเป็น เบาหวาน

เบาหวาน (Diabetes Mellitus: DM) เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมระดับ น้ำตาล ในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้จนทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง โดยเกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) ได้อย่างเพียงพอหรือไม่สามารถตอบสนองต่อฮอร์โมนนี้ได้ตามปกติ (ภาวะดื้อต่ออินซูลิน) ซึ่งอินซูลินถือว่าเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดโดยตรงนั่นเอง 

ด้วยภาวะทั้งสองที่กล่าวไป ทำให้ร่างกายหรือเซลล์ไม่สามารถนำน้ำตาลที่อยู่ภายในเลือดไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างปกติ จนเกิดเป็นการสะสมอยู่ภายในเลือด ซึ่งหากปล่อยไว้เป็นเวลานานก็จะก่อให้เกิดปัญหาแทรกซ้อนหรือเป็นอันตรายต่ออวัยวะต่าง ๆ ได้  

ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานจึงจำเป็นต้องควบคุมอาหารให้เหมาะสมเพื่อป้องกันภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูงและป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ   

รู้ได้อย่างไรว่าเป็น เบาหวาน 

การวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานจะสามารถทำได้ด้วยการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นหลัก รวมถึงแพทย์จะสอบถามอาการผู้ป่วย ประวัติการเจ็บป่วยของผู้ป่วยและของบุคคลในครอบครัว  โดยมีวิธีการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดหลายวิธีและจะแปรผลได้ ดังนี้ 

  • ระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร 8 ชั่วโมง (FPG) ≥ 126 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร 
  • ระดับน้ำตาลในเลือดแบบสุ่ม (สำหรับผู้มีอาการ) ≥ 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร 
  • ระดับน้ำตาลในเลือดหลังดื่มน้ำกลูโคส 75 กรัม 2 ชั่วโมง (OGTT) ≥ 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร 
  • ระดับน้ำตาลในเลือดสะสม (HbA1C) ≥ 6.5% 

แต่การตรวจโดยส่วนใหญ่ที่นิยมใช้ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดมักจะถูกรวมอยู่ในการตรวจสุขภาพประจำปีคือ ระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร 8 ชั่วโมง (FPG) ซึ่งหากมีระดับน้ำตาลมากกว่า 126 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร แพทย์จะนัดทำการตรวจซ้ำอีกครั้งเพื่อยืนยันผล โดยอาจจะใช้การตรวจหลังอดอาหารหรือแบบอื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน โดยหากมีค่ามากกว่าเกณฑ์ที่กล่าวไปข้างต้นก็จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานโดยแพทย์ และจะได้รับคำแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหาร การออกกำลังกาย เพื่อชะลอและป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากเบาหวานนั่นเอง 

ดังนั้นเราจึงควรคุมอาหารอาหาร ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงกว่า 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรเพื่อลดความเสี่ยงในการที่จะเป็นโรคเบาหวานและโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้จากเบาหวานและภาวะอ้วน  

และถ้าเกิดสงสัยว่าจะต้องคุมอาหารแบบไหนถึงเรียกว่าเหมาะ ก็สามารถปรึกษากับนักกำหนดอาหาร นักโภชนาการ  หรือจะปรึกษาพวกเรา Eatwellconcept ที่มีบริการปรึกษาโภชนาการออนไลน์ ที่จะช่วยวางแผนการกินอาหาร คอร์สลดน้ำหนัก เพื่อให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรงเหมาะสมได้เลย 

สอบถามเพิ่มเติม Add Line ปรึกษานักกำหนดอาหาร

ดูแลสุขภาพของคุณให้ถูกวิธี

โปรแกรมปรึกษานักกำหนดอาหารคืออะไร ?

พร้อมรับคำปรึกษาจาก

นักกำหนดอาหารวิชาชีพ

ไม่พลาดบทความด้านโภชนาการ

ของ อีทเวลล์คอนเซปต์ ก่อนใคร

อ้างอิง 

  1. สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร, สมาคมต่อมไร้ท่อแห่งประเทศไทย, กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาต. (2560). แนวทางเวชปฏิบัติสําหรับโรคเบาหวาน 2560 (พิมพ์ครั้งที่ 3). ปทุมธานี: บริษัท ร่มเย็น มีเดีย จำกัด. สืบค้นจาก https://www.dmthai.org/attachments/article/443/guideline-diabetes-care-2017.pdf 
  1. Association, A. D. (2020). 2. Classification and Diagnosis of Diabetes: <em>Standards of Medical Care in Diabetes—2020</em>. Diabetes Care, 43(Supplement 1), S14-S31. https://doi.org/10.2337/dc20-S002 
ส่งข้อความถึงเรา