fbpx

เป็นเบาหวาน แล้วทานน้ำตาลเทียมได้หรือไม่ ?

ความหวานเป็นรสชาติหนึ่งคนค่อนโลกรู้สึกพึงพอใจ ซึ่งการชอบรสหวานนี้ส่งผลให้รู้สึกดีเมื่อได้รับประทานการรู้สึกบวกต่ออาหารที่มีรสชาติหวานนั้นถูกฝังมาอยู่ในพันธุกรรมของเราตั้งแต่ยุคบรรพบุรุษ ซึ่งหากรับประทานอย่างไม่ต้องกังวลได้ก็คงดี แต่วงการทางวิทยาศาสตร์สุขภาพและการแพทย์ได้ค้นพบความสัมพันธ์หนึ่งของ ปริมาณน้ำตาลและความหวานต่อการเกิดปัญหาทางสุขภาพมากมาย ทั้งโรคอ้วน โรคเบาหวาน การมีไขมันสะสมในร่างกายและอื่นๆ อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังมากมาย ทว่าขึ้นชื่อว่ามนุษย์ก็ย่อมมีการสร้างสรรค์และคิดค้นสิ่งต่าง ๆ เสมอ หากเราต้องการลดการบริโภคน้ำตาลซึ่งให้ความหวานลงแล้ว การคิดค้นเครื่องปรุงที่ให้รสชาติหวานแต่ไม่ให้พลังงานหรือผลเสียกับร่างกาย ก็ได้ให้ดำเนิด “สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล” ขึ้นมา

ผู้เป็นเบาหวานสามารถบริโภคน้ำตาลเทียมได้

โดยแนะนำให้ใช้ทดแทนการเติมน้ำตาลในอาหาร หรือเลือกดื่มเครื่องดื่มที่ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลได้ แต่ควรเป็นการใช้ทดแทนเมื่อต้องการบริโภคจริง ๆ และนาน ๆ ครั้ง ไม่ใช่การดื่มเป็นประจำแบบตามใจตัวเอง เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าคือ การปรับพฤติกรรมการบริโภคซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากในผู้ที่เป็นเบาหวาน

สารให้ความหวานแทนน้ำตาลคือ

สารที่ให้รสชาติหวานได้คล้ายหรือเหมือนกับการใช้น้ำตาลเติมในอาหาร แต่มีความแตกต่างกันที่ไม่ให้พลังงานแก่ร่างกายหรือให้น้อยมาก ในเมืองไทยมีการใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลค่อนข้างแพร่ในวงการอาหารที่กล่าวอ้างว่าดีต่อสุขภาพกว่าอาหารสูตรปกติทั่วไป ซึ่งพบได้หลักๆ 4 ชนิดดังนี้

  1. Acesulfame-K หรืออะซีซัลเฟมเค ให้รสชาติที่หวาน แหลม นิยมใช้ผสมในเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม เช่น โค้กซีโร่ เป๊ปซี่แมกซ์ ร่วมกับสารให้ความหวานแทนน้ำตาลประเภทอื่นๆ เพื่อให้รสชาติลงตัวที่สุด
  2. Aspartame หรือแอสปาแตม ให้รสชาติที่หวานแหลม และติดขมปลายลิ้นนิดๆ หลังกลืน สารนี้ค่อนข้างได้รับความนิยมและพบเห็นได้ง่าย มีในรูปน้ำตาลซอง ได้แก่ Equal (ซองสีน้ำเงิน) และยังใช้ผสมกับสารให้ความหวานแทนน้ำตาลตัวอื่นๆ ลงในเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมเช่นกัน ข้อเสียหนึ่งคือ สารนี้ไม่ค่อยคงตัวในความร้อนสูง หากนำไปใส่ในอาหารที่ตั้งบนเตาไฟจะสลายตัวลงและไม่ให้รสชาติหวานใดๆ ออกมา และผู้ที่มีโรคทางพันธุกรรม ฟีนิลคีโตนูเรียต้องหลีกเลี่ยงการใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลชนิดนี้
  3. Sucralose หรือซูคราโลส เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่ให้รสชาติหวานใกล้เคียงกับน้ำตาลทราย และยังมีคุณสมบัติที่ทนความร้อนได้ดีกว่าสารชนิดอื่นๆ จึงสามารถใช้กับอาหารที่ตั้งบนเตาไฟได้ ถูกนำมาใช้ทั้งในรูปเดี่ยวๆ และผสมกับสารให้ความหวานแทนน้ำตาลชนิดอื่นๆ
  4. Stevia หรือ สารสกัดจากหญ้าหวาน หญ้าหวานเป็นพืชที่มีสารกลุ่ม stevioside มีคุณสมบัติในการกระตุ้นปุ่มรับรสหวานบนลิ้นได้ จึงนิยมนำมาใช้แทนน้ำตาลเทียมได้ โดยมักนำมาต้มให้น้ำที่หวาน จึงนำสมุนไพรที่ต้องการดื่ม เช่น ตะไคร้ กระเจี๊ยบมาต้มต่อ เพื่อให้มีรสชาติหวานแต่ไม่มีพลังงาน

ความปลอดภัยในการใช้สารให้ความหวาน

ทางองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาได้ระบุไว้ว่าเป็น GRAS หรือ General recognized as safe คือ หากนำมาใช้ในบริบทการบริโภคของคนทั่วไปถือว่าปลอดภัย และแนะนำให้หลีกเลี่ยงการบริโภคที่มากเกินคนทั่วไป เช่น ครั้งละ 10-20 ซองของน้ำตาลเทียม เป็นต้น ฉะนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องผลเสียต่อสุขภาพ

ทั้งนี้ผู้ที่ให้คำแนะนำด้านอาหารเฉพาะโรคจะต้องได้รับการฝึกปฏิบัติโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการอาหารแก่ผู้ป่วยที่มีโรคซับซ้อนเช่น อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง เมนูอาหารสำหรับโรคไตรั่ว อาหารสำหรับคนเป็นโรคไต ที่ต้องจำกัดโปรตีน เป็นต้น

สอบถามเพิ่มเติม Add Line ปรึกษานักกำหนดอาหาร

ดูแลสุขภาพของคุณให้ถูกวิธี

โปรแกรมปรึกษานักกำหนดอาหารคืออะไร ?

พร้อมรับคำปรึกษาจาก

นักกำหนดอาหารวิชาชีพ

ไม่พลาดบทความด้านโภชนาการ

ของ อีทเวลล์คอนเซปต์ ก่อนใคร

ส่งข้อความถึงเรา