เป็น เบาหวาน จะสามารถกิน ผลไม้ หรือไม่?

ผู้เป็น เบาหวาน มีปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ จึงมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารเพื่อให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในช่วงปกติ ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยเบาหวานหลาย ๆ คนสงสัยว่าเป็นเบาหวาน กินอะไรดีและอย่าง ผลไม้ ที่มีรสหวานจะสามารถกินได้หรือไม่ 

เจาะลึกเรื่อง เบาหวาน 

เบาหวาน คือ ภาวะที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ผู้เป็นโรคเบาหวานจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร เช่น ควบคุมคาร์โบไฮเดรต เลี่ยงอาหารหวาน เลี่ยงอาหารมัน เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อที่จะลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน หากไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ จะมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนอันเนื่องมาจากเบาหวานได้ เช่น เบาหวานขึ้นตา โรคไต หลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบตัน ซึ่งเป็นปัญหาทางสุขภาพที่ลดคุณภาพชีวิตของผู้เป็นเบาหวานอย่างมาก แล้วแบบนี้ผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องระมัดระวังปริมาณน้ำตาลในอาหารจะสามารถกินผลไม้ที่มีรสหวานจากธรรมชาติได้หรือไม่ 

ผลไม้ เป็น เบาหวาน จะกินได้ไหม 

หลายคนอาจสงสัยว่าโรคเบาหวานที่ต้องควบคุมน้ำตาลในเลือด จะกินผลไม้ได้จริง ๆ ใช่หรือไม่ โดยตามหลักการดูแลของผู้ป่วยโรคเบาหวาน สามารถสรุปอย่างง่ายได้ว่า 

ผู้เป็นโรคเบาหวานสามารถกินผลไม้ได้

เพราะถึงแม้ผู้เป็นเบาหวานจะต้องควบคุมน้ำตาล แต่ก็สามารถกินผลไม้ได้ทุกชนิด โดยจะต้องเลือกชนิดและปริมาณให้เหมาะสมด้วย เพื่อไม่ให้ร่างกายเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาลในเลือดมากจนเกินไป ซึ่งปริมาณของผลไม้ที่แนะนำให้ผู้เป็นเบาหวานสามารถกินได้ในหนึ่งวัน คือ ครั้งละ 1 คาร์บ เทียบได้กับผลไม้ประมาณ 1 ส่วน หรือ 1 กำปั้นนั่นเอง โดยแนะนำให้กินวันละ 2 – 3 ครั้ง หลังอาหารหรือเป็นมื้อว่างก็ได้เช่นกัน เราลองไปดูตัวอย่างผลไม้และปริมาณที่แนะนำให้กินในแต่ละครั้ง ตามนี้ 

แต่นอกจากนี้ถ้าอยากกินผลไม้ชนิดอื่น ๆ ก็ขอเพียงแค่ 1 กำปั้นต่อครั้ง ก็ถือว่าเป็นปริมาณที่เหมาะสม แต่ต้องระวังผลไม้รสหวานจัดอย่างเช่น ลำไย มะม่วงสุก เป็นต้น แต่ถ้าระดับน้ำตาลสะสม (HbA1C) สูงก็อาจจะลดผลไม้เหลือเพียงวันละ 1 – 2 ครั้งเพื่อไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นสูงมากเกินไป และควรหลีกเลี่ยงการจิ้มผงปรุงรสต่าง ๆ เช่น ผงบ๊วย น้ำตาล พริกเกลือ อีกทั้งผู้เป็นเบาหวานควรเลี่ยงการกินผลไม้ที่ผ่านการแปรรูป เช่น ผลไม้เชื่อม น้ำผลไม้ ผลไม้ตากแห้ง หรือผลไม้ดอง เพราะจะมีน้ำตาลอยู่สูงกว่าผลไม้สด มีใยอาหารและสารอาหารต่าง ๆ ต่ำกว่าผลไม้สดอีกด้วย  

สรุปได้ว่า ผู้เป็น เบาหวาน กินผลไม้ได้วันละ 2 – 3 กำปั้นโดยเลือกเป็นผลไม้รสหวานน้อยและเลือกเป็นผลไม้สดเป็นหลัก อย่างไรก็ตามนอกจากผลไม้แล้ว ผู้เป็นเบาหวานก็ต้องควบคุมการกินอาหารให้เหมาะสม ไม่บริโภคน้ำตาลเกินวันละ 6 ช้อนชา และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วย  

แล้วผู้ป่วยเบาหวานจะต้องกินอาหารอย่างไรดี ก็สามารถสอบถามนักกำหนดอาหารของโรงพยาบาล หรือจะปรึกษานักกำหนดอาหารออนไลน์ของเราจากอีทเวทเวลคอนเซปต์ เพื่อให้คุณสามารถควบคุมน้ำตาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนการรักษาของแพทย์ให้ดีขึ้นนั่นเอง  

สอบถามเพิ่มเติม Add Line ปรึกษานักกำหนดอาหาร

ดูแลสุขภาพของคุณให้ถูกวิธี

โปรแกรมปรึกษานักกำหนดอาหารคืออะไร ?

พร้อมรับคำปรึกษาจาก

นักกำหนดอาหารวิชาชีพ

ไม่พลาดบทความด้านโภชนาการ

ของ อีทเวลล์คอนเซปต์ ก่อนใคร

แหล่งอ้างอิง  

1. สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร, สมาคมต่อมไร้ท่อแห่งประเทศไทย, กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาต. (2560). แนวทางเวชปฏิบัติสําหรับโรคเบาหวาน 2560 (พิมพ์ครั้งที่ 3). ปทุมธานี: บริษัท ร่มเย็น มีเดีย จำกัด. สืบค้นจาก https://www.dmthai.org/…/guideline-diabetes-care-2017.pdf  
2. Fruit | ADA. (n.d.). American Diabetes Association. Retrieved September 3, 2021, from https://www.diabetes.org/healthy-living/recipes-nutrition/eating-well/fruit