fbpx
หน้าแรก ข่าวสารและคลังความรู้ คลังความรู้ “ภาวะก่อนเบาหวาน” สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม 

“ภาวะก่อนเบาหวาน” สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม 

ภาวะก่อนเบาหวาน-EWC

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า “เบาหวาน” ไม่ได้มาแบบปุ๊บปั๊บ แต่มันเริ่มค่อย ๆ คืบคลานเข้าหาเราผ่านสิ่งที่เรียกว่า “ภาวะก่อนเบาหวาน” หรือ Prediabetes หรือบางคนอาจจะคุ้นในชื่อว่า “เบาหวานแฝง” เป็นภาวะที่ร่างกายเริ่มมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ แต่ยังไม่ถึงขั้นที่เรียกว่า “เบาหวาน” 

ภาวะก่อนเบาหวาน คืออะไร? 

คือภาวะที่

  • ระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร อยู่ในช่วง 100–125 mg/dL  
  • หรือ ระดับ HbA1c อยู่ระหว่าง 5.7–6.4% 

แม้ยังไม่ใช่ “โรค” แต่ถ้าไม่ปรับพฤติกรรม ก็มีโอกาสสูงมากที่จะพัฒนาไปสู่ เบาหวานชนิดที่ 2 ภายในไม่กี่ปี 

พฤติกรรมเสี่ยง ที่ทำให้คุณเข้าใกล้เบาหวานแบบไม่รู้ตัว 

หลายคนมีพฤติกรรมเหล่านี้ในชีวิตประจำวันโดยไม่ทันคิดว่าอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพได้

5 พฤติกรรมเสี่ยงเบาหวาน-EWC
5 พฤติกรรมเสี่ยง ภาวะเบาหวาน
  1.  ชอบกินหวาน มัน เค็ม 
    เช่น น้ำอัดลม ขนมหวาน ของทอด ของมันบ่อย ๆ 
  1.  นั่งนาน ไม่ค่อยขยับตัว 
    ทำงานหน้าคอมทั้งวัน แล้วกลับบ้านก็ดูซีรีส์ยาวๆ 
  1. ไม่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 
    หรือทำบ้างแต่ไม่พอเพียงกับที่ร่างกายต้องการ 
  1. กินคาร์โบไฮเดรตปริมาณมากเกินไป 
    เช่น ข้าวขาว เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง โดยไม่สมดุลกับผักหรือโปรตีน 
  1.  มีคนในครอบครัวเป็นเบาหวาน 
    แม้คุณจะไม่อ้วน แต่ถ้ามีพันธุกรรมก็ถือว่ามีความเสี่ยง 
  1.  มีภาวะอ้วนลงพุง 
    เส้นรอบเอวมากกว่าส่วนสูงหาร 2 เช่น หากมีส่วนสูง 160 เซนติเมตร ก็ไม่ควรมีเส้นรอบเอวเกิน 80 เซนติเมตร 

ทำไมเราควรรู้ตัว “ให้เร็วที่สุด”? 

การรู้ก่อน ไม่ใช่เรื่องให้วิตก แต่คือ “โอกาส” ที่จะหยุดหรือชะลอไม่ให้กลายเป็นเบาหวาน 

เพราะเมื่อเรารู้ว่าเสี่ยง เราก็สามารถเริ่ม… 

  • ปรับการกิน ลดน้ำตาล กินข้าวแป้ง ขนมปัง ผลไม้ ให้้เหมาะสม 
  • เพิ่มผัก หรือใยอาหารในทุกมื้อ ช่วยชะลดการดูดซึมน้ำตาล 
  • เพิ่มการขยับ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 
  • ปรับน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม 
  • ป้องกันภาวะแทรกซ้อนในอนาคต เช่น โรคไต หัวใจและหลอดเลือด 

วิธีเช็คตัวเอง ภาวะก่อนเบาหวาน เบื้องต้นง่าย ๆ 

แนะนำให้ทุกคนลองเข้าไป ทำแบบประเมินความเสี่ยงเบาหวานออนไลน์ เพื่อประเมินตัวเองอย่างรวดเร็ว รู้ก่อน ป้องกันได้ก่อน พร้อมกับได้รับตัวอย่างการจัด Meal plan และตัวอย่างสำหรับคนที่เป็นเบาหวานหรือมีภาวะก่อนเบาหวาน 

คลิกที่นี่เพื่อประเมินความเสี่ยงของคุณตอนนี้ 

ใช้เวลาไม่ถึง 2 นาที แต่สามารถช่วยให้เรารู้เท่าทันความเสี่ยงของตัวเองได้ รู้เร็วป้องกันเร็ว ไม่เสี่ยงเป็นเบาหวาน 

ภาวะก่อนเบาหวาน = สัญญาณเตือนก่อนเข้าสู่เบาหวาน 

แก้ไขได้ถ้ารีบ “รู้ก่อน” และ “เปลี่ยนพฤติกรรม” 

อย่ารอให้เจ็บ อย่ารอให้ชัดเจน แล้วค่อยเริ่มดูแล 

เริ่มวันนี้…เพื่อชีวิตที่ดี ไม่มีโรคเบาหวานกันค่ะ 

ใครที่มีภาวะเสี่ยงเบาหวาน มาเริ่มลดค่าน้ำตาลในเลือดกับทางนักกำหนดอาหารอีทเวลล์คอนเซปต์ได้ เราดูผลตรวจสุขภาพรายบุคคลและให้คำแนะนำปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน มีทั้งการคำนวนออกแบบเพลนเมนูอาหารและสายไม่นับแคลแค่รู้จักกินเลือกให้ถูกก็จะสามารถการกินอาหารได้อย่างมีความสุข

คำแนะนำปรึกษา-60-นาที-EWC

สอบถามเพิ่มเติม Add Line ปรึกษานักกำหนดอาหาร

ดูแลสุขภาพของคุณให้ถูกวิธี

โปรแกรมปรึกษานักกำหนดอาหารคืออะไร ?

พร้อมรับคำปรึกษาจาก

นักกำหนดอาหารวิชาชีพ

ไม่พลาดบทความด้านโภชนาการ

ของ อีทเวลล์คอนเซปต์ ก่อนใคร

แหล่งอ้างอิง 

สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์. (2566). แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน 2566. https://dmthai.org/new/index.php/sara-khwam-ru/sahrab-bukhkhl-thawpi/diabetes-book/naewthang-wech-ptibati-sahrab-rokh-bea-hwan-2566 

Tag :

Supanan Makrum

นักกำหนดอาหาร ผู้ไม่คิดว่าการกินอาหารอร่อย จะเป็นเรื่องต้องห้ามต่อการมีสุขภาพดี Dietitian who proves that savory dishes are not prohibited against healthy concepts.

บทความอื่นๆ

โอเมก้า-3 ตัวช่วผู้สูงอายุ-EWC
  • Food and Nutrition

โอเมก้า-3 ตัวช่วยสมองผู้สูงอายุ ห่างไกลอัลไซเมอร์

ในช่วงอายุที่เพิ่มขึ้น ผู้สูงอายุมักเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสมองและระบบความจำที่เสื่อมถอยตามวัย แต่สิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยชะลอและลดความเสี่ยงนี้ได้คือ กรดไขมันโอเมก้า-3 (Omega-3) ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพสมอง โดยเฉพาะในด้านการป้องกันภาวะสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ เรามาทำความเข้าใจถึงประโยชน์ของโอเมก้า-3 และดูว่ามีอาหารไทยอะไรบ้างที่สามารถเป็นแหล่ง โอเมก้า-3 ได้ง่าย ๆ โอเมก้า-3 คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไรต่อสมองผู้สูงอายุ? กรดไขมันโอเมก้า-3 ประกอบด้วย 2 ชนิดหลักที่สำคัญต่อสมอง ได้แก่ จากการศึกษาพบว่า ผู้สูงอายุที่มีระดับโอเมก้า-3 สูงมักจะมีผลการทดสอบด้านความจำและความเร็วในการประมวลผลข้อมูลดีกว่าผู้ที่มีระดับต่ำ นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบของสมอง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ อาหารไทยที่เป็นแหล่งโอเมก้า-3 โชคดีที่อาหารไทยหลายชนิดมีกรดไขมันโอเมก้า-3 ในปริมาณที่เหมาะสม สามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพสมองได้ 1. ปลาน้ำจืด ปลาสวาย ปลาช่อน ปลานิล และปลาทับทิม เป็นปลาที่หาได้ง่ายและราคาย่อมเยา โดยปลาสวายมีปริมาณโอเมก้า-3 ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปลาน้ำจืดชนิดอื่น ๆ เมนูแนะนำ: ต้มยำปลาช่อน, ปลานึ่งจิ้มแจ่ว, ปลาทับทิมสามรส 2. ปลาทะเล ปลาทะเล เช่น ปลาทู ปลากะพง ปลาอินทรี เป็นแหล่งโอเมก้า-3 ที่ดีและสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย เมนูแนะนำ: ปลาทูต้มส้ม, ปลาทูทอดน้ำปลา, […]

  • Blog from Eatology

ข้าวไข่เจียว 1 จาน พลังงานเท่าไรกัน? 

ข้าวไข่เจียว เป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ทำง่าย ใช้วัตถุดิบน้อย และเป็นที่นิยมในทุกเพศทุกวัย ด้วยรสชาติที่ถูกปากคนไทยและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ กินคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ และซอสพริก ซอสมะเขือเทศ หรือแม้แต่น้ำพริกกะปิตามสไตล์ไทยๆ ทำให้เป็นมื้อง่ายๆที่ทั้งอร่อยและสะดวก แม้เมนูไข่เจียวที่ให้โปรตีนสูงจากไข่ แต่การทอดด้วยน้ำมันอาจทำให้พลังงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก มาดูกันว่าข้าวไข่เจียวแต่ละแบบให้พลังงานเท่าไหร่กัน และสามารถปรับเป็นจานอาหารสุขภาพได้แบบไหนบ้าง ข้าวไข่เจียว 1 จาน กี่แคล?  โดยเฉลี่ย ข้าวไข่เจียว 1 จาน ให้พลังงาน 450-600 กิโลแคลอรี แต่พลังงานอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำมัน ไข่ และส่วนผสมอื่น ๆ  พลังงานจากส่วนประกอบหลัก  พลังงานจากไข่เจียวประเภทต่าง ๆ  * หากกิน ไข่เจียวฟูกรอบใส่น้ำมันเยอะ พลังงานอาจพุ่งสูงถึง 700-800 กิโลแคลอรีต่อจาน  ทำไมข้าวไข่เจียวถึงให้พลังงานสูง?  เคล็ดลับกินข้าวไข่เจียวให้สุขภาพดี  คนเป็นโรคประจำตัว ควรกินข้าวไข่เจียวอย่างไร?  ข้าวไข่เจียว 1 จานให้พลังงานตั้งแต่ 200 จนถึง 800 กิโลแคลอรีต่อจาน ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำมัน ไข่ และส่วนผสมอื่นๆที่ใส่เพิ่มเข้าไป ยิ่งเป็นไข่เจียวฟูกรอบพลังงานยิ่งสูง หากอยากกินข้าวไข่เจียวแบบเฮลท์ตี้ […]

ดูทั้งหมด
ส่งข้อความถึงเรา