fbpx

หม่าล่าถัง 1 หม้อ พลังงานเท่าไร? 

หม่าล่าถัง หรือ ชาบูหม่าล่า เป็นอาหารยอดนิยมจากจีนที่ถูกปากคนไทย ด้วยรสชาติเผ็ดร้อน ชาลิ้นจากพริกเสฉวนและเครื่องเทศหลากหลาย นิยมใส่เนื้อสัตว์ ผัก เต้าหู้ และลูกชิ้นต่าง ๆ ลงไปต้มในน้ำซุปหม่าล่าร้อน ๆ หม่าล่าถังอาจจะดูเป็นเมนูเฮลท์ตี้ที่มีผักและโปรตีนจากเนื้อสัตว์ แต่พลังงานของอาหารชนิดนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของวัตถุดิบที่เลือกใช้ และปริมาณน้ำมันในน้ำซุป  

หม่าล่าถัง 1 ถ้วย หรือ 1 หม้อ กี่แคล? 

หม่าล่าถัง 1 ถ้วยใหญ่ (หรือ 1 หม้อเล็ก) อาจให้พลังงาน ตั้งแต่ 400–1,000 กิโลแคลอรี พลังงานที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงตามวัตถุดิบที่เลือกใส่ 

ทำไมน้ำซุปหม่าล่ามีพลังงานเยอะ? 

  • มีน้ำมันพริกจำนวนมาก หม่าล่ามักใช้น้ำมันพริก ที่ทำมาจากน้ำมันจากพืชหรือน้ำมันจากสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหมูหรือน้ำมันวัวในปริมาณมาก ทำให้มีพลังงานเพิ่มขึ้น เพราะน้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะให้พลังงานประมาณ 120 กิโลแคลอรี ทำให้พลังงานสูงโดยเฉพาะถ้าซดน้ำซุปเข้าไปด้วย 
  • เครื่องเทศและสมุนไพรผัดน้ำมัน หม่าล่ามีเครื่องเทศจำพวกพริกแห้ง พริกไทยเสฉวน กระเทียม ขิง ฯลฯ ซึ่งมักผ่านการผัดกับน้ำมันก่อนนำไปต้มเป็นซุป เพิ่มไขมันและพลังงานแฝง 
  • ซุปเข้มข้นจากกระดูกหรือน้ำสต๊อกมันๆ บางร้านใช้น้ำต้มกระดูกหรือซุปแบบข้น ซึ่งอาจมีไขมันจากกระดูกสัตว์ ทำให้พลังงานรวมสูงขึ้นอีก 
  • ปรุงรสเพิ่มในน้ำซุป บางสูตรมีการเติมซอสปรุงรสหวานมัน เช่น ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วหวาน น้ำตาล หรือเครื่องปรุงรสที่มีไขมันและน้ำตาลเพิ่ม ทำให้พลังงานในน้ำซุปเพิ่มมากขึ้น 

ทำให้โดยเฉลี่ยนแล้วน้ำซุป 1 ถ้วย หรือ 200 ml จะมีพลังงานอยู่ที่ 100-200 กิโลแคลอรี หรืออาจจะมากกว่านั้นถ้าซดน้ำซุปในส่วนที่เป็นน้ำมันเข้าไปในปริมาณมาก 

หม่าล่าหม้อไฟ-EWC

พลังงานจากเนื้อสัตว์ (ต่อ 100 กรัม ดิบ) 

  • หมูสันนอกสไลซ์ – ให้พลังงาน 150 กิโลแคลอรี 
  • หมูสามชั้นสไลซ์ – ให้พลังงาน 350-400 กิโลแคลอรี 
  • หมูสันคอสไลซ์ – ให้พลังงาน 180-200 กิโลแคลอรี 
  • เนื้อวัวติดมันสไลซ์ – ให้พลังงาน 250-300 กิโลแคลอรี 
  • เนื้อวัวไม่ติดมันสไลซ์ – ให้พลังงาน 140-150 กิโลแคลอรี 
  • อกไก่สไลซ์ – ให้พลังงาน 150 กิโลแคลอรี 
  • สันในไก่ (ประมาณ 2-3 เส้น) ให้พลังงาน 110 กิโลแคลอรี 
  • ตับหมู – ให้พลังงาน 120-130 กิโลแคลอรี 
  • ไส้หมู – ให้พลังงาน 70-100 กิโลแคลอรี 
  • กุ้งสด – ให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี 
  • ลูกชิ้นหมู – ให้พลังงาน 140 กิโลแคลอรี 
  • ลูกชิ้นปลา – ให้พลังงาน 80-100 กิโลแคลอรี 

พลังงานจากผักและเห็ด (ต่อ 100 กรัม) 

  • กะหล่ำปลี/ผักกาดขาว – ให้พลังงาน 10-15 กิโลแคลอรี 
  • ผักบุ้ง – ให้พลังงาน 15-20 กิโลแคลอรี 
  • เห็ดเข็มทอง – ให้พลังงาน 20-30 กิโลแคลอรี 
  • เห็ดหอมสด – ให้พลังงาน 20-30 กิโลแคลอรี 
  • มันฝรั่ง/เผือก – ให้พลังงาน 70-110 กิโลแคลอรี 

พลังงานจากเต้าหู้และเส้น (ต่อ 100 กรัม) 

  • เต้าหู้ขาว – ให้พลังงาน 60-70 กิโลแคลอรี 
  • ฟองเต้าหู้ (ไม่ทอด) – ให้พลังงาน 40-50 กิโลแคลอรี  
  • ฟองเต้าหู้ทอด 1 ม้วน ให้พลังงาน 100 – 150 กิโลแคลอรี 
  • เส้นบุก – ให้พลังงาน 10-20 กิโลแคลอรี 
  • วุ้นเส้นลวก – ให้พลังงาน 130-140 กิโลแคลอรี 

ดังนั้นหากเลือกวัตถุดิบที่ให้พลังงานสูง เช่น หมูสามชั้น สันคอหู และฟองเต้าหู้ทอด พร้อมน้ำซุปหม่าล่าที่มีน้ำมันพริกปริมาณมาก พลังงานอาจสูงถึง 800-1,000 กิโลแคลอรี 

เคล็ดลับกินหม่าล่าถังให้สุขภาพดี 

  • เลือกซุปหม่าล่ามันน้อย หรือตักน้ำมันบางส่วนออก ลดน้ำมันพริกเพื่อควบคุมพลังงาน 
  • เลือกเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เช่น อกไก่ สันไนไก่ เนื้อหมูสันนอก กุ้ง หรือเต้าหู้ขาวแทนหมูสามชั้น หรือสันคอมหมู 
  • เพิ่มผักให้มากขึ้น เช่น กะหล่ำปลี เห็ดหอม และผักกาดขาว 
  • เลี่ยงการเติมเครื่องปรุงรสจัด เช่น ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม และเกลือ 
  • เลี่ยงน้ำจิ้ม หรือจิ้มให้น้อยที่สุด ช่วยลดพลังงาน ลดไขมัน และโซเดียม  

คนเป็นโรคประจำตัว ควรกินหม่าล่าถังอย่างไร? 

  • เบาหวาน ลดแป้ง เลือกเส้นบุก ไม่ซดน้ำซุป เลือกเนื้อไม่ติดมัน 
  • โรคอ้วน เปลี่ยนเป็นน้ำซุปใสและใส่พริกหม่าล่าที่ไม่มีน้ำมันเพื่อยังให้ได้รับความเผ็ดชา ที่สำคัญเลือกเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เพิ่มการกินผัก และฟองเต้าหู้แบบไม่ทอด จะช่วยให้คุมพลังงานได้ดี 
  • โรคไต แนะนำเปลี่ยนเป็นสุกี้หรือชาบูสไตล์ไทยๆ พร้อมกับเลือกน้ำจิ้มสูตรโวเดียมต่ำ 
  • ความดันโลหิตสูง หลีกเลี่ยงการซดน้ำซุป หรือปรุงให้น้ำซุปมีรสจืดกว่าสูตรปกติ เลือกเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ และเพิ่มการกินผักมากขึ้น 
  • กรดไหลย้อน เลี่ยงหม่าล่า ปรับเป็นชาบูน้ำดำหรือสุกี้แบบไทยๆ เลือกเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ ช่วยลดการกระตุ้นอาการของกรดไหลย้อนได้ดี 

หม่าล่าถังอร่อยแซ่บสะใจ แต่แคลอรีก็แอบแรงไม่แพ้กัน ตั้งแต่ 400-1,000 กิโลแคลอรีต่อหม้อ ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่เลือกใส่ลงไปในหม้อของเรา หากเลือกวัตถุดิบอย่างชาญฉลาด หลีกเลี่ยงซุปมันจัด เพิ่มผักให้มากขึ้น เลือกเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เพื่อให้ได้รับโปรตีนอย่างเพียงพอแต่ไขมันไม่สูง เราก็สามารถสนุกกับมื้อนี้ได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องพลังงานหรือสุขภาพมากจนเกินไป “อร่อยแบบพอดี เผ็ดแบบพอประมาณ สุขภาพก็ตามมาแน่นอน” 

ใครที่มีโรคประจำตัวหรืออยากลดน้ำหนัก แล้วสงสัยว่ากินอันนี้ได้ไหม หรืออาหารอื่นๆกินอะไรดี ประมาณเท่าไรให้เหมาะสมกับตัวเอง สามารถปรึกษานักกำหนดอาหารวิชาชีพกับEatwellconcept ได้ค่ะ

สอบถามเพิ่มเติม Add Line ปรึกษานักกำหนดอาหาร

ดูแลสุขภาพของคุณให้ถูกวิธี

โปรแกรมปรึกษานักกำหนดอาหารคืออะไร ?

พร้อมรับคำปรึกษาจาก

นักกำหนดอาหารวิชาชีพ

ไม่พลาดบทความด้านโภชนาการ

ของ อีทเวลล์คอนเซปต์ ก่อนใคร

แหล่งอ้างอิง 

  • Institute of Nutrition Mahidol University. Program INMUCAL Version 4.0 
ส่งข้อความถึงเรา