fbpx

Fat Burner กับการลดน้ำหนัก

ยีน (Gene) คือรหัสพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด  เเละมนุษย์เองก็มีรหัสพันธุกรรมนี้อยู่ในร่างกายด้วยเช่นกัน โดยยีนจะควบคุมลักษณะการแสดงออกของคนให้มีความแตกต่างกัน  ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา สรีระ ความแข็งแรง  การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ สุขภาพภายใน หรือแม้กระทั่งน้ำหนักตัว จะมีใครเคยได้ยินเรื่อง ยีนเผาผลาญไขมัน หรือ Fat burner gene กันบ้างไหม ซึ่งเป็นปัจจัยภายในร่างกายของเรา โดยสามารถตรวจได้จากการ ตรวจ DNA ที่วิเคราะห์ร่างกายได้ เพื่อนำมาเป็นแนวทางพิจารณาในการวางแผนลดน้ำหนัก ช่วยให้เราเข้าใจร่างกายตัวเองและรู้วิธีลดน้ำหนักที่เหมาะสม มีประสิทธิภาพได้

ซึ่งหลายๆ คนอาจเคยใช้วิธีการลดน้ำหนักตามคนอื่นๆ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ด้วยความแตกต่างไปแต่ละคน วิธีหนึ่งอาจได้ผลกับบางคน แต่กับอีกคนกลับใช้ไม่ได้ผล บางคนบอกว่ากินเท่ากัน กินเหมือนกัน แต่อีกคนยังอ้วนอยู่ ส่วนอีกคนลดน้ำหนักได้ดีกว่า ซึ่งเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง หนึ่งในนั้นมักเกี่ยวข้องกับการยีนที่ควบคุมกำกับดูแลการเผาผลาญพลังงาน โดยเราพบว่า บางคนอาจเผาผลาญไขมันเก่ง แต่บางคนอาจเผาผลาญไขมันไม่เก่งนั่นเอง

มารู้จัก “กระบวนการเผาผลาญไขมัน”กันก่อนดีกว่า

            กระบวนการเผาผลาญไขมันเป็น กระบวนการที่ร่างกายเปลี่ยนพลังงานไขมันเป็น ATP (Adenosine Triphosphate) ซึ่งคือ รูปแบบพลังงานที่เซลล์ในร่างกายเราสามารถนำไปใช้ได้เลย สิ่งที่ทำให้เกิดการเผาผลาญไขมันเพิ่มขึ้นมีหลายปัจจัย เช่น

  • การออกกำลังแบบคาร์ดิโอ 45 นาที/ครั้ง 4-5 ครั้ง/สัปดาห์
  • การกินคาร์โบไฮเดรต เช่น น้ำตาล ขนมหวาน ข้าวแป้ง ให้น้อยลง
  • การกินโปรตีน เช่น ไข่ หมู ไก่ ปลา  และ การกิน ไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก อาโวคาโด หรือถั่วเปลือกแข็งให้เพียงพอ
  • การทำ IF (Intermittent Fasting)

Fat burner กับ การตรวจ DNA คืออะไร

เป็นการทดสอบประเภทหนึ่งที่สามารถระบุการเปลี่ยนแปลงของยีน โครโมโซม หรือโปรตีนในร่างกายของเรา โดยจะใช้ตัวอย่างเลือด ผิวหนัง เส้นผม เนื้อเยื่อ หรือน้ำคร่ำ เพื่อทดสอบ และสามารถบอกเราได้ว่าพันธุกรรมเราเป็นอย่างไร การตรวจดีเอ็นเอสามารถยืนยันว่าเรามีหรือไม่มีโรคเฉพาะ มีความเสี่ยงสูงในการเกิดภาวะบางอย่างหรือไม่ และยังบอกได้ว่าเรามียีนกลายพันธุ์เฉพาะที่สามารถส่งต่อไปยังลูกหลานได้หรือไม่ นอกจากนี้ สามารถหาความสัมพันธ์ทางสายเลือด ตรวจหาเชื้อชาติต้นกำเนิด  และตรวจสุขภาพองค์รวมต่าง ๆ ได้

ประโยชน์ของ DNA testing

ประโยชน์ของ DNA Testing มีมากมายไม่ว่าจะเป็น ใช้วางแผนการออกกำลังกาย วางแผนการดูแลผิวพรรณ เข้าใจภาวะทางอารมณ์ บุคลิกของตัวเอง หาความเสี่ยงโรคร้ายแรง การตอบสนองต่อยา หาโรคส่งต่อพันธุกรรม  หรือแม้กระทั่ง การวางแผนการกินการลดน้ำหนัก ผลตรวจ DNA จะทำให้เรารู้ว่า ร่างกายของเรามีแนวโน้มจะรับสารอาหารอะไรได้ดี อาหารประเภทไหนเข้ากับเรา กินแล้วระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี หรือเเย่ลง รวมถึงได้เข้าใจลักษณะการตอบสนองต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย

ผล DNA testing ใช้วางแผนลดน้ำหนักได้

เนื่องจากการตรวจ DNA สามารถตรวจสอบสิ่งเหล่านี้ได้

  • ความสามารถในการเผาผลาญสารอาหาณบางประเภท โดยผล DNA บางราย สามารถตรวจความสามารถในการเผาผลาญไขมัน หรือ แป้งได้ เพื่อช่วยให้เราวางเเผนได้ว่าควรกินอาหารรูปแบบใด เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายด้านสุขภาพที่วางเอาไว้
  • ความต้องการสารอาหาร ประกอบด้วย กลุ่มวิตามินต่างๆ วิตามินบี 6, บี 12 วิตามินซี วิตามินดี กรดโฟลิก โอเมก้า 3 และสารต้านอนุมูลอิสระ
  • ความไวต่ออาหาร ประกอบด้วย ความไวต่อคาร์โบไฮเดรต ไขมัน คาเฟอีน แอลกอฮอล์ เกลือ รวมถึงความไวต่อแล็กโทส และ กลูเตน ตัวอย่างเช่น เมื่อตรวจแล้วพบว่า พื้นฐานร่างกายเรามีความต้องการวิตามินบี 6 และ บี 12 สูง นั่นหมายความว่า เราจำเป็นต้องทานอาหารที่มีวิตามินบี 6 และ บี 12 
  • การออกกำลังกาย ทำให้รู้ถึงประสิทธิภาพของการใช้ออกซิเจน และประสิทธิภาพในการฟื้นตัว ความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ความทนทาน รวมถึงสมรรถนะสำหรับการออกกำลังกายเฉพาะบุคคล 
  • สุขภาพองค์รวม ความสามารถในการเผาผลาญอาหาร การตอบสนองต่อการอักเสบ การควบคุมความอยากอาหาร ความเสี่ยงต่อโรคอ้วน และการขจัดสารพิษออกจากร่างกาย

ปรับการกินตาม DNA เน้นการเผาผลาญไขมัน

            ดังที่กล่าวไปข้างต้นหนึ่งในวิธีการทำให้เกิดการเผาผลาญไขมันคือการกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลง เหมาะกับการกินอาหารประเภทต่างๆ ดังนี้

Ketogenic diet

คือการเน้นกินไขมันเยอะ ๆ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ อาหารคีโต (Keto) Vs ไขมันต่ำ (Low fat) ประโยชน์ดีจริง หรือแค่ติดเทรนด์ ลดการกินพวกแป้งและน้ำตาลให้น้อยที่สุด เพื่อให้ร่างกายนำไขมันสะสมมาเผาผลาญเป็นพลังงาน ซึ่งจะทำให้ร่างกายเราสลับไปใช้ไขมันเป็นแหล่งสะสมพลังงานแทนที่จะใช้พลังงานจากแป้งและน้ำตาลเหมือนอย่างปกติ ซึ่งถ้าเราตรวจเองเองแล้วผลของ DNA แสดงให้เห็นว่าเราเป็นคนที่มี DNA ไวต่อการเผาผลาญไขมัน แต่อาจจะไม่ไวต่อการเผาผลาญแป้งหรือคาร์โบไฮเดคต ก็สามารถใช้วิธีการกินอาหารแบบนี้ได้

Atkins Diet

การกินแบบ Atkins Diet คือการกินอาหารแบบเน้นเนื้อ ไม่กินแป้ง โดยเน้นอาหารที่มีโปรตีนสูงมากๆ เช่น เนื้อสัตว์ เต้าหู้ หมู ปลา ไข่ แต่ลดการกินแป้งและน้ำตาลลงอย่างมากและเร็ว  และเลือกกินไขมันดี  เช่นน้ำมันมะกอก ไข่ สำหรับอาหารที่ไม่ให้กินเลยคือ อน้ำตาลและแป้ง อาหารที่ให้ความหวานอย่างผลไม้หรือแม้แต่ข้าวก็ไม่ได้ เช่นกัน

แต่อย่างไรก็ตามนั้น จากรูปแบบการกินอาหารทั้งสองแบบนั้นทำให้เกิด การเผาผลาญไขมันก็จริง แต่การที่เรารับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ลดพลังงาน โดยกินให้น้อยกว่าที่ใช้ไป เน้นการรับประทานโปรตีนให้มากขึ้น ทุกน้ำหนักที่ลดลงไม่ได้ลดเพียงแค่ไขมันเท่านั้นกล้ามเนื้อเราก็ลดไปด้วย โดยอาจปรับเป็นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ โดยเฉพาะ ตัดส่วนที่เป็นน้ำตาลสูง น้ำหวานมาก ไปก่อน ร่วมกับการเสริมโปรตีนเพิ่มเข้าไป ดื่มน้ำเพียงพอ พักผ่อนให้เพียงพอ และการออกกำลังกาย อย่างคาร์ดิโอ หรือเวทเทรนนิ่ง ถึงจะใช้ระยะเวลานานแต่ผลลัพธ์ก็มีประสิทธิภาพและยืนยาวกว่า

สรุป

            สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักให้มีประสิทธิภาพ ควรเริ่มต้นจากการศึกษาร่างกายของตัวเองก่อนว่าเราเป็นแบบไหน การใช้วิธีการตรวจสอบตัวเองตั้งแต่ระดับ DNA การรู้จักตัวเองเป็นหนึ่งวิธีช่วยทำให้เรารู้จักว่าอะไรที่เหมาะสมกับเราซึ่งเป็นการแก้ปัญหาได้ตรงจุดที่สุด แต่อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่การลดไขมันเท่านั้นที่ทำให้น้ำหนักลด การควบคุม  อาหาร และดูแลสุขภาพโดยรวม เพิ่มการกินอาหารอย่างโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ คาร์โบไฮเดรต น้ำ ให้ครบถ้วนล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่ร่างกายต้องการ และไม่ควรขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปจะทำให้ร่างกายขาดสมดุล

สอบถามเพิ่มเติม Add Line ปรึกษานักกำหนดอาหาร

ดูแลสุขภาพของคุณให้ถูกวิธี

โปรแกรมปรึกษานักกำหนดอาหารคืออะไร ?

พร้อมรับคำปรึกษาจาก

นักกำหนดอาหารวิชาชีพ

ไม่พลาดบทความด้านโภชนาการ

ของ อีทเวลล์คอนเซปต์ ก่อนใคร

แหล่งอ้างอิง

ส่งข้อความถึงเรา